เติมลมยางเท่าไหร่ดี ? รถเก๋ง รถกระบะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ที่ปลอดภัย ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่รถยนต์อยู่ตลอด และสิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือเรื่องของยางรถยนต์ ควรหมั่นตรวจเช็คทุกๆ 6 เดือน ถึง 12 เดือน แต่ทั้งนี้ก็ต้องควบคู่ไปกับการเช็คลมยางอีกด้วย เราจึงรวบรวมข้อมูลมาว่า เติมลมยางเท่าไหร่ดี ทั้งรถเก๋ง และรถกระบะ ซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม จะเป็นยังไงไปดูกันเลย !!
เติมลมยางเท่าไหร่ดี?
หลายๆ ท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า รถของตัวเองนั้นเติมลมยางเท่าไหร่ดี ซึ่งแต่ละรุ่น หรือแต่ละประเภทก็เติมไม่เท่ากันอีก วันนี้เรามีคำตอบ
แรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ รถเก๋ง จะอยู่ที่ประมาณ 30-32 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง แต่ถ้าหากต้องบรรทุกของ หรือกรณีที่ผู้โดยสารเต็มทั้งคัน (5 คน) สามารถเพิ่มปริมาณแรงดันลมยางได้ประมาณ 33-35 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)
แรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ รถกระบะ ต้องการแรงดันที่มากกว่ารถเก๋งอยู่แล้ว โดยล้อหน้าจะมีแรงดันอยู่ที่ 36-38 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) และล้อหลังอยู่ที่ 40-42 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) หากบรรทุกของหนัก สามารถดันไปจนถึง 47-51 PSI (ปอนด์ต่อรางนิ้ว) ได้เลย
สำหรับท่านไหนที่ต้องการทราบว่ารถของตัวเองเติมลมยางเท่าไหร่ ก็สามารถตรวจสอบได้ โดยจะมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ที่ฝั่งประตูคนขับ
การเติมลมยาง ควรเติมบ่อยแค่ไหน ?
การเติมลมยาง ไม่สามารถบอกได้เป๊ะๆ ว่าจะต้องเติมตอนไหน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ขับขี่ ซึ่งปกติแล้ว แรงดันยางจะค่อยๆลดลง เฉลี่ย 2-3 PSI ใน 1 เดือน ทั้งนี้การเช็คลมยางเราแนะนำว่า ควรเช็ค 1-3 เดือน ต่อครั้ง
เติมลมยางไม่ถูก จะเกิดอะไรขึ้น ?
การเติมลมยางไม่ถูกต้อง จะถูกแบ่งเป็น 2 กรณีหลักๆ คือ การเติมน้อยไป และการเติมมากไป
การเติมแรงดันลมยางน้อยเกินไป จะส่งผลให้เมื่อเราขับขี่จะเสี่ยงทำให้ยางระเบิด เนื่องจากยางที่อ่อนตัวทำให้เสียดสีกับผิวถนนมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางอ่อนมีโอกาสระเบิดมากกว่ายางแข็งนั่นเอง
กรณีที่เติมแรงดันลมยางมากเกินไป ส่งผลให้ยางแข็งกระด้าง จะทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง โดยเฉพาะในเวลาที่ฝนตก จะอันตรายอย่างมาก ดังนี้การเติมลมยางให้พอดี เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เป็นยังไงกันบ้างกับ บทความเติมลมยางเท่าไหร่ดี ทุกท่านคงได้ทราบคำตอบกันแล้ว ทั้งนี้การเติมน้อยเกินไป หรือการเติมมาก เกินไป ก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี และไม่ควรทำอย่างยิ่งด้วยน้า อีกทั้งทุกท่าน ยังสามารถดูข้อมูลแรงดันการเติมลมยางได้ที่ข้างประตูฝั่งคนขับได้อีกด้วย ทั้งนี้การขับขี่ก็ต้องขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยของตัวรถยนต์และคนขับ และที่สำคัญมีสติก่อนสตาร์ทน้า