วิธีขับรถและดูแลรถยนต์ช่วงฝนตกหนัก
เนื่องจากสถานการณ์หน้าฝนในช่วงนี้ ทำให้หลายๆ ท่านที่ใช้รถใช้ถนน ต้องตระหนักในการขับและการดูแลรถยนต์เป็นอย่างมาก เมื่อสภาพรถที่ไม่พร้อมใช้งาน เมื่อใช้ความเร็วอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้นเราจึงนำ วิธีขับรถและดูแลรถยนต์ช่วงฝนตกหนัก มาให้ทุกท่านได้ตรวจสอบและเช็คสภาพกัน
1. เช็คสภาพใบปัดน้ำฝนหน้ารถ

สภาพการมองมีความสำคัญสูงสุดในการขับรถ เมื่อฝนตกก็จะยิ่งทำให้การมองย่ำแย่ลง โดยเฉพาะรถติดฟิล์ม หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ก็จะยิ่งทำให้การมองเห็นระหว่างฝนตกยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ฟิล์มเข้มกับการขับฝ่าสายฝนในตอนกลางคืนนั้นอันตราย โดยเฉพาะการติดฟิล์มหน้าที่มืดทึบพอๆ กับฟิล์ม ยางปัดน้ำฝนมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี เมื่อเสื่อมสภาพก็ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อทำให้การมองเห็นระหว่างฝนตกอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย
2. กระปุกน้ำและมอเตอร์ปั๊มน้ำฉีดกระจก

ละอองน้ำที่กระเด็นมาใส่กระจกบานหน้า ถ้าไม่มีน้ำล้างระหว่างการปัดทำความสะอาดก็จะทำให้มองไม่เห็นหรือไม่ชัดเจน เปิดฝากระโปรง ตรวจสอบระดับน้ำฉีดกระจกเมื่อเห็นว่าพร่องลงไปก็ควรเติมให้เต็ม ผสมกับน้ำยาเช็ดกระจกด้วยเพื่อช่วยเพิ่มความสะอาด
3. ระบบเบรก

ตรวจสอบผ้าเบรกให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกในกระปุกว่าปกติหรือเหลือน้อยกว่าระดับที่กำหนด ถ้าวิ่งลุยน้ำมาก็อย่าเพิ่งขับเร็ว พอพ้นจากจุดน้ำท่วมขังแล้วให้แตะเบรกเบาๆ เพื่อรีดน้ำออกจากจานเบรก
4. ยางและลมยาง

ยางสภาพสมบูรณ์มีดอกยางลึกมากพอและลมยางตามเกณฑ์กำหนดจะทำให้ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะขับฝ่าสายฝน และลมยาง ถ้าลมยางอ่อนเกินไป จะทำให้ยางมีอุณหภูมิสูง สึกหรอบริเวณแก้มยางอย่างรวดเร็ว ตรวจเช็กแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ
5. ระบบสัญญาณไฟ

หมั่นตรวจระบบไฟทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟสูง ไฟฉุกเฉิน ไฟเบรก ไฟถอย และไฟตัดหมอก (ถ้ามี) เพราะนั่นคือความสำคัญของระบบไฟสัญญาณในรถยนต์ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ฝนตก หรือเวลากลางคืน
6. อย่าจอดรถใต้ต้นไม้

พายุฝนนั้นจะมาพร้อมกับลมกระโชกแรง เป็นอีกสาเหตุที่อาจทำให้รถยนต์เกิดความเสียหาย จากเศษกิ่งไม้ที่หักขาดปลิวลงมา หาที่จอดที่ห่างไกลจากต้นไม้ขนาดใหญ่ จะดีกว่าเข้าไปหลบใต้ต้นไม้ท่ามกลางลมพายุพัดรุนแรง
7. อย่าขับเร็ว

ลดความเร็วเมื่อฝนตกและสภาพถนนเปลี่ยนจากแห้งไปเป็นชื้นแฉะ ความเร็วที่เหมาะสม อยู่ที่ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพิ่มระยะห่างจากรถคันข้างหน้า เพิ่มสมาธิในการขับ มองให้ไกลแม้จะลำบากในการมอง ตัดสินใจอย่างรวดเร็วหากเกิดเหตุฉุกเฉินว่าจะหักหลบหรือใช้เบรกเต็มกำลัง
ที่มา : thairath