รถติดต้องเข้าเกียร์ N หรือ P
ทุกท่านสงสัยกันไหมว่า เวลาที่ รถติดต้องเข้าเกียร์ N หรือ P และการเลือกใช้เกียร์แต่ละแบบให้ช่วยถนอมเบรค ต้องใช้เกียร์อะไร ซึ่งการที่รถติดบ่อยๆ ก็สร้างปัญหาแล้ว แต่ต้องมาห่วงเรื่องระบบเกียร์อีก ต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน วันนี้เราจึงไ้นำคำตอบมาให้ทุกท่านแล้ว ไปดูกันเลย

รถติดควรใช้เกียร์อะไร
เกียร์ P = ไม่แนะนำ
เกียร์ P ย่อมาจากคำว่า Park นั่นแปลว่าการจอดแบบสนิท การที่เราอยู่ในสถานการณ์รถติด การที่เราใช้เกียร์ P อาจทำให้เราออกตัวช้าหากทุกคุณกำลังเร่งรีบ การที่เราสลับเกียร์ไปมาบ่อยเกิดไป อาจทำให้ระบบเกียร์ของเราเสื่อมไวได้ แนะนำว่า ถ้าหากอยากใช้เกียร์ P เราให้เราจอดสนิทนิ่งไปเลย หรือ ก่อนดับเครื่องเท่านั้น
เกียร์ N = แนะนำ
เกียร์ N ย่อมาจากคำว่า Neutral นั่นแปลว่าการที่อยู่ตรงกลาง หรือ การเข้าเกียร์ว่างนั่นเอง ชื่อนี้ได้มาจากยุคเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ประชุกยุคแรกๆ การที่เราจะให้รถหยุดนิ่ง เราต้องโยกเกียร์ไปตรงกลางนั่นเอง การที่เราเข้าเกียร์ N ขณะรถติดถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะถ้าหากรถจอดนิ่งๆ เป็นระยะๆ การที่เราจะเข้าเกียร์อื่นแล้วเหยียบเบรคไปด้วยอาจส่งผลให้กับเกียร์หรือเบรคของคุณมีปัญหาแน่ๆ แนะนำว่าถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่เรา จอดเป็นระยะๆ ให้ใช้เกียร์ N และใช้เบรคมือเป็นบางครั้ง ดีที่สุด
เกียร์ D = แนะนำ
เกียร์ D ย่อมาจากคำว่า Drive นั่นแปลว่าการขับรถหรือเคลื่อนรถ การที่เราเข้าเกียร์ D ขณะรถติดถือว่าไม่ผิด แต่เราต้องดูสถานการณ์ด้วย ถ้าหากเราอยู่ในสถานการณ์รถติดที่ขยับไปเรื่อยๆ ไหลกันยาวๆ การเข้าเกียร์ D ถูกต้องที่สุด
เครื่องมือเสริม (Brake Hold)
สมัยนี้การพัฒนาของระบบอำนวยความสะดวกภายในรถได้เพิ่มมากขึ้น หากเราพูดถึงสิ่งที่ช่วยการผ่อนคลายของขาเราที่สุด คงไม่พ้นนวัตกรรมของ Brake Hold สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สามารถช่วยขาของเรา หากติดอยู่ที่ไฟแดงบ่อยๆ รถขยับช้าๆ และเราไม่อยากขยับเกียร์บ่อยๆ สิ่งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถ้าหากเราอยู่ในสถานการณ์รถติดแบบไม่ขยับเลย ถ้ารถใครมีสิ่งนี้ถือว่าดีกว่า นั่นคือระบบ Eco Start – Stop ระบบนี้จะช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมันหากเราติดอยู่บนท้องถนนนานๆ แบบไม่ขยับเลย เครื่องรถจะดับอัตโนมัติแต่อุปกรณ์ไฟฟ้ายังทำงานอยู่เหมือนเดิม ถ้าใครมีออฟชั่นนี่ ถือว่ารถของคุณประหยัดน้ำมันสุดๆ
ที่มา : Autospinn