ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 10% ทั่วโลก

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 10% ทั่วโลก

เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากกับรถยนต์ ซึ่งทำให้เกิด รถยนต์ไฟฟ้า ขึ้นมา ซึ่งทำให้หลายๆคน หรือแม้กระทั่งทั่วโลก ให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากการประหยัดพลัง และใช้งานง่าย อีกทั้งยังรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้จำนวน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 10% ทั่วโลก 

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 10% ทั่วโลก

โลกของเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากยานยนต์สันดาป สู่ยานยนต์พลังงานสะอาดนั้น รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ซึ่งเป็นรูปแบบของรถยนต์ไฟฟ้าที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน สามารถทำยอดขายได้มากถึง 10% จากยอดขายรถยนต์ทั่วโลกได้แล้ว ตามการรายงานของ CleanTechnica และพบว่ายอดขายรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริดจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคัน ภายในเดือนกันยายน 2565 นี้ด้วย

ยอดขายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เติบโตเพิ่มขึ้นมากถึง 61% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส่งสัญญาณอันดีถึงยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปล้วนแบบเดิม มาใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของกำลังขับเคลื่อนแล้ว โดยยอดขายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด คิดเป็น 14% จากยอดขายรถยนต์รวมทั้งโลก ส่วนยอดขายรถยนต์สันดาปล้วนนั้น มีการปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนแล้ว ซึ่งนี่เป็นการส่งสัญญาณครั้งใหญ่ถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานที่ยั่งยืนอย่างชัดเจน

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นแรก

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 10% ทั่วโลก

ในส่วนของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นแรก ในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา Tesla Model Y สามารถทำยอดจำหน่ายไปได้มากถึง 344,928 คัน ครองตำแหน่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ตามมาด้วย Wuling Mini EV 244,961 คัน และ Tesla Model 3 ที่ 236,518 คัน

ขณะเดียวกัน ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าสูงมากๆ ส่งผลให้มีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ซึ่งแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนนั้นมีบทบาทอย่างมากต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก โดยเฉพาะ BYD ที่ถือว่าเป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนที่สามารถขึ้นมาต่อกรกับ Tesla ยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ไฟฟ้าได้แบบหมัดต่อหมัด

ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา BYD สามารถจำหน่ายรถยนต์พลังงานใหม่ (รวม BEV และ PHEV) ทั่วโลกไปได้มากถึง 160,061 คัน ส่วน Tesla ทำยอดขายได้ที่ 52,084 คัน ตามมาด้วย Volkswagen ที่ 46,400 คัน

ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก นับว่ามีความท้าทายสูงมาก เนื่องจากผู้ที่มีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้านั้นพึงพอใจกับการครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพดีโดยคำนึงถึงเรื่องของชื่อชั้นแบรนด์รถยนต์ค่อนข้างน้อย ส่งผลให้แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ๆ สามารถทำยอดขายได้ด้วยเช่นกัน โดยขณะนี้ Tesla ยังคงครองแชมป์บริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดอยู่ แต่ก็ต้องเจอกับการต่อกรจากบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่ไล่ตามมาติดๆ ด้วยเช่นกัน

ที่มา : Autospinn

ข่าวสารเพิ่มเติม